เชื่อว่าหลายๆ คนอาจเคยเจอเคสที่ว่า ฉีดโบท็อก ไปกี่รอบก็ไม่เห็นผล หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่าเพิ่งคิดว่าโบท็อกยี่ห้อนั้นๆ ที่คุณหมอฉีดให้ไม่มีคุณภาพ เพราะอาการนี้อาจเกิดจากภาวะดื้อโบท็อกของคนไข้เองก็เป็นได้! เนื่องจากอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ขึ้นอยู่ที่ภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้นถ้าคุณกำลังมีแพลนอยากฉีดโบท็อก แล้วกลัวว่าจะเจอกับปัญหานี้ ไม่ต้องกังวล เพราะวันนี้ Da La Rose Clinic ได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับอาการ สาเหตุ รวมถึงวิธีการป้องกันอาการดื้อโบท็อก มาให้ทุกคนได้อ่านกันในบทความนี้
อาการ ฉีดโบท็อก แล้วดื้อยา เป็นอย่างไร?
สำหรับใครที่สงสัยว่า อาการดื้อโบท็อกเป็นยังไง? จริงๆ แล้วก็เหมือนกับอาการดื้อยา คือ เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปแล้ว ร่างกายไม่มีการตอบสนองต่อสารที่ฉีดเข้าไปทำให้ไม่เห็นผล หรืออาจจะเห็นผลน้อยมาก ซึ่งในกลุ่มคนที่มีอาการดังกล่าว ฤทธิ์ของโบท็อกที่ฉีดเข้าไปจะเสื่อมไวกว่าปกติ จากเดิมที่ออกฤทธิ์ได้ประมาณ 4-6 เดือน ก็อาจอยู่ได้เพียง 1-2 เดือนเท่านั้น โดยอาการดื้อโบท็อก (Botox Resistance) สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตามลักษณะอาการที่สังเกตได้ ดังนี้
- ระดับที่ 1
จากที่ปกติเคยฉีดโบท็อกในปริมาณเท่าเดิม ก็สามารถลดริ้วรอยได้ แต่เมื่อมีภาวะดื้อโบท็อกเข้ามา ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เหมือนเดิม ทำให้ลดริ้วรอยได้น้อยลง หรือริ้วรอยกลับมาเร็วขึ้น
- ระดับที่ 2
จากปกติเคยฉีดโบท็อกในปริมาณเท่าเดิม ก็ต้องใช้ปริมาณที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถลดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล
- ระดับที่ 3
แม้ว่าจะเพิ่มปริมาณโบท็อกที่ฉีดมากขึ้น แต่ก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของการลดริ้วรอย หรือปรับรูปหน้า ไม่เกิดผลลัพธ์หลังการรักษา
ฉีดโบท็อก อย่างไร เป็นสาเหตุของอาการ ดื้อโบท็อก
อาการดื้อโบท็อกเกิดจากการที่ ร่างกายของเราสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) ออกมาทำลายยาโบท็อกที่ฉีดเข้าไป เพราะถูกมองว่าเป็นสารแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ทำให้ตัวยาถูกทำลาย และไม่ออกฤทธิ์ แต่นอกจากเรื่องระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้คนไข้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้ ซึ่งมีดังนี้
- ฉีดโบท็อกปริมาณมาก หรือถี่เกินไป – โดยปกติแล้วหลังจากฉีดโบท็อก ควรเว้นระยะห่างแต่ละครั้งประมาณ 3-4 เดือนขึ้นไป เพื่อรอให้โบท็อกที่ฉีดไปล่าสุดเสื่อมฤทธิ์ลงก่อน หากฉีดโบท็อกถี่กว่าระยะเวลาที่บอกไป ก็อาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้
- ฉีดโบท็อกปลอม ไม่ได้มาตรฐาน – นอกจากจะฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยแล้ว การฉีดโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการควบคุมอุณหภูมิตัวยา จนทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงดื้อยา และเกิดอาการแพ้โบท็อกได้มากขึ้น
- เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของผู้เข้ารับบริการ – ผู้เข้ารับบริการฉีดโบท็อกบางราย ร่างกายจะมีการสร้างภูมิคุ้มกัน ออกมาต่อต้านโบท็อกมากกว่าปกติ ทำให้การฉีดโบท็อกในครั้งต่อๆ ไปไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยกว่าคนทั่วไป
หากดื้อโบท็อกแล้ว สามารถกลับมาฉีดได้อีกมั้ย?
ในกรณีที่เคยเกิดอาการดื้อโบท็อกแล้ว แต่อยากกลับมาฉีดโบท็อกซ้ำ สามารถทำได้แต่ต้องรอเวลาประมาณ 3-5 ปี จนกว่าภูมิต้านทานจะหายไปเอง แล้วค่อยกลับมาฉีดใหม่อีกครั้ง และในปัจจุบันถึงแม้ว่าอาการนี้ ยังไม่สามารถแก้ไขให้หายขาดได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองเพียง เลือกใช้ปริมาณโบท็อกที่เหมาะสม, ไม่ฉีดบ่อยหรือฉีดถี่จนเกินไป ที่สำคัญต้องเลือกโบท็อกแท้ ได้มาตรฐาน และเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ
เพราะฉะนั้นก่อนฉีดจำเป็นต้องศึกษาข้อมูล และเลือกคลินิกให้ดีๆ เพราะหากเกิดอาการดื้อไปแล้ว อาจจะต้องรอให้ภูมิคุ้มกัน (Antibody) ที่ทำลายโบท็อกหมดฤทธิ์ไปเอง ซึ่งนั่นหมายความว่าต้องรออีกหลายปี กว่าจะสามารถกลับมาฉีดใหม่ได้
ป้องกันอาการดื้อยา เลือก ฉีดโบท็อก ที่ได้มาตรฐาน
ถ้าอยากฉีดโบท็อกให้หน้าเป๊ะ สวย หล่อนาน แบบไม่ต้องเสี่ยง ต้องเลือก ฉีดโบท็อก กับคลิกนิกที่ได้มาตรฐาน อย่างคลินิก Da La Rose ซึ่งทางคลินิกของเรามุ่งเน้นเรื่องความมั่นใจ และความปลอดภัยของลูกค้าทุกท่านเป็นหลัก การฉีดโบท็อกจะทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า ถ้าเลือกใช้บริการกับคลินิกของเรา คุณจะได้รับบริการที่ดีและมีคุณภาพกลับไปแน่นอน โดยโบท็อกที่ Da La Rose เรามีให้บริการทั้งหมด 3 ยี่ห้อ ได้แก่
โบท็อก Allergan ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) ประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้น สารโบทูลินั่มในการลดริ้วรอย โดยจุดเด่นของโบท็อก Allergan คือ
- มีความบริสุทธิ์ 99.5% โอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- ยากระจายตัวแคบ เห็นผลการรักษาที่แม่นยำ
- มีอายุการใช้งานนานกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ
- ออกฤทธิ์ไว เห็นผลการเปลี่ยนแปลงเร็ว
โบท็อก Xeomin ผลิตขึ้นในประเทศเยอรมนี พัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน Xeomin เหมาะกับการฉีดเพื่อลดริ้วรอย และลิฟกรอบหน้า Dermolift ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้โบท็อก Xeomin แตกต่างจากยี่ห้ออื่นคือ
- ใช้ XTRACT Technology™ เพื่อกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก ทำให้มีความบริสุทธิ์ 100%
- ปราศจาก Complexing Proteins ร่างกายจะเกิดสารต้านโบท็อก (Antibody) ต่ำ
- สารโบท็อกกระจายตัวได้ดี ฉีดแล้วไม่ตึงแข็งเกินไป
- มีงานวิจัยที่ระบุว่า โบท็อก Xeomin มีโอกาสได้ผลในเคสดื้อยามากกว่ายี่ห้ออื่นๆ แต่ทั้งนี้การดื้อโบท็อกเป็นภาวะที่รักษาไม่หาย จึงไม่สามารถรับประกันได้ว่า Xeomin จะใช้ได้ผลทุกเคส
โบท็อก Hugel ถูกผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Hugel Inc ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งโบท็อกยี่ห้อนี้ได้พัฒนาสาร Botulinum Toxin ที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับโบท็อกอเมริกา จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาบริเวณใบหน้าต้องการลดริ้วรอย หรือต้องการลดกล้ามเนื้อใหญ่ เช่น กราม น่อง ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น ซึ่งจุดเด่นของโบท็อกยี่ห้อนี้ คือ
- มีความบริสุทธิ์ 99.5% ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน
- ยากระจายตัวแคบ ส่งผลให้ออกฤทธิ์แม่นยำ ทำให้เข้าไปแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
- โบท็อก Hugel ผลิตในโรงงานที่ใช้ Robot จึงหมดห่วงเรื่องความสะอาดในการผลิต
Da La Rose Clinic ให้คุณสวยได้อย่างมั่นใจ
อยากแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า หรือลดกล้ามเนื้อใหญ่ในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอกับภาวะดื้อยา ถ้าคุณได้ ฉีดโบท็อก กับ Da La Rose Clinic เพราะเราเป็นคลินิกเสริมความงาม ที่มุ่งเน้นในเรื่องความมั่นใจ และใส่ใจถึงความปลอดภัยของลูกค้าทุกท่านเป็นหลัก ควบคุมดูแลและให้คำปรึกษาโดยแพทย์ American Board ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
พร้อมทั้งทีมงานที่มีประสบการณ์ ช่วยให้คำแนะนำทุกการให้บริการ ซึ่งนอกจากบริการฉีดโบท็อก ทางคลินิกของเรายังให้บริการในด้านอื่นๆ อีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น บริการยกกระชับ, บริการดูแลผิวหน้า, เลเซอร์กำจัดขน และบริการอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยเสริมความงามให้กับลูกค้าทุกท่าน
ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่