เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน มีการพัฒนาเครื่อง เลเซอร์ขน ที่ช่วยดูแลปัญหาขน บริเวณผิวหนังในด้านต่างๆ ออกมาหลายประเภท โดยเครื่องแต่ละประเภทก็มีหลักการทำงานแตกต่างกันออกไป และเครื่องเลเซอร์กำจัดขน ที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยๆ คือ เครื่อง Diode Laser และ YAG Laser ถ้าคุณอยากรู้ว่าทั้ง 2 เครื่องนี้แตกต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่ากัน!? ในบทความนี้ Da La Rose Clinic จึงนำข้อมูลระหว่างเลเซอร์ทั้ง 2 ประเภทมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้ทุกท่านเลือกใช้บริการเลเซอร์กำจัดขน ได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
เครื่อง Diode Laser
Diode Laser เป็นนวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขน ที่ใช้คลื่นพลังงานที่มีความยาวคลื่นหลากหลาย โดยความยาวคลื่นช่วงที่นิยมใช้กันคือ 800-1,350 นาโนเมตร เป็นช่วงความยาวที่สามารถยิงลึกลงไปในผิว เพื่อกำจัดขนได้ถึงระดับผิวหนังชั้นส่วนลึก ซึ่งหลักการทำงานของเลเซอร์ประเภทนี้ จะเข้าไปจับเม็ดสีที่รากขน และปล่อยพลังงานความร้อนออกมาทำลายรากขนนั้นๆ ทำให้เส้นขนหลุดร่วงออกมา โดยไม่ทำให้เจ็บหรือทำลายผิวหนังบริเวณที่กำจัดขน นอกจากนี้เครื่อง Diode Laser ยังมีข้อดีอีกหลายด้าน ที่ทำให้หลายคลินิกเลือกใช้เทคโนโลยีนี้ในการกำจัดขน
- เหมาะกับทุกสีผิว ทุกประเภทผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวบอบบาง ผิวคล้ำ หรือ ผิวแห้ง
- ไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้คนผิวคล้ำที่มีเม็ดสีมากกว่าคนผิวขาว ก็สามารถทำได้โดยไม่ทำให้ผิวไหม้
- Diode Laser มีความอ่อนโยนต่อผิว มีความปลอดภัยสูง และไม่เกิดอาการเบิร์นผิว
- เลเซอร์มีความยาวคลื่นหลากหลาย สามารถผ่านลงไปถึงผิวหนังชั้นลึก ทำให้กำจัดขนได้ถึงรากถึงโคน
- Diode Laser มีระบบทำความเย็น ช่วยให้ไม่เกิดการบาดเจ็บบริเวณผิวหนังที่ทำเลเซอร์ หรือช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บหลังทำ
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวใต้วงแขนดูเรียบเนียนขึ้น
เครื่อง YAG Laser
เทคโนโลยี YAG Laser หรือ เลเซอร์กำจัดขนเทคโนโลยี ND: Yag Laser มีความยาวคลื่นมากถึง 1,064 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเลเซอร์อีกหนึ่งประเภท ที่สามารถกำจัดขนได้ละเอียด และลงลึกถึงรากโคนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักการทำงานของเครื่อง YAG Laser จะคล้ายกับ Diode Laser คือ เริ่มจากการยิงแสงเลเซอร์ ด้วยการปล่อยพลังงานความร้อนจากเครื่อง เข้าไปจับกับเม็ดสีเมลานินและรากขน ทำให้เส้นขนหลุดร่วงออกมา แต่เลเซอร์ประเภทนี้ จะเหมาะกับการเลเซอร์เฉพาะจุดมากกว่า เช่น บริเวณใบหน้า รักแร้ และจุดซ่อนเร้น ฯลฯ นอกจากนี้ YAG Laser ยังมีข้อดีอื่นๆ อีกหลายด้าน ได้แก่
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขน ที่มีผิวสีแทน หรือ ผิวสีเข้ม
- มีความอ่อนโยนต่อผิว ยิงพลังงานลงลึกได้ถึงราก แต่ไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิวโดยรอบ
- มีประสิทธิภาพกำจัดขน ที่หนาและแข็งได้ดี ระคายเคืองน้อย
- ช่วยชะลอการเกิดขนชุดใหม่ในระยะยาว
- มอบสัมผัสผิวเรียบเนียน ช่วยกระชับรูขุมขน
- เป็นเครื่องที่มีมาตรฐานสูง เครื่องเลียนแบบจะน้อย โอกาสเสี่ยงเจอเครื่องไม่ได้มาตรฐานก็น้อยเช่นกัน
เลเซอร์ขน Diode vs YAG
หลังจากที่เราทราบกันไปแล้วว่า เครื่อง Diode Laser และ YAG Laser มีหลักการทำงานและข้อดีในด้านใดบ้าง เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีคำถามต่อว่า “แล้วระหว่างเครื่อง Diode Laser และ YAG Laser ต่างกันยังไง!?” ในหัวข้อนี้ทาง Da La Rose ได้เตรียมคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว เดี๋ยวเราจะมาเปรียบเทียบให้ทุกคนเห็นกันชัดๆ ว่าเครื่องเลเซอร์ทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้แตกต่างกันในด้านไหนบ้าง
- ด้านประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพการทำงานของ Diode กับ YAG จะแตกต่างกันในเรื่องของความยาวของคลื่น โดย Diode Laser จะมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 800-1,350 นาโนเมตร ส่วน YAG จะอยู่ที่ 1,064 นาโนเมตร ทำให้แสงเลเซอร์มีความยืดหยุ่น และครอบคลุมมากกว่า YAG Laser ที่มีความยาวคลื่นเพียง 1,064 นาโนเมตรเท่านั้น ดังนั้น Diode Laser จึงมีการกำจัดรากขน และเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงขนได้ดีกว่า YAG Laser
- ความเจ็บ
การทำ Diode Laser จะมีความเจ็บน้อยกว่าการทำ YAG Laser เนื่องจากเครื่อง Diode Laser มีระบบความเย็นทำงานควบคู่ในระหว่างทำเลเซอร์ ทำให้ลดอาการเบิร์นของผิวได้ แต่เครื่อง YAG Laser ไม่มีระบบความเย็น จึงอาจเกิดอาการเจ็บเล็กน้อยระหว่างทำเลเซอร์
- ราคา
เลเซอร์ทั้ง 2 แบบจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษา อยู่ที่ประมาณ 1,000-3,000 บาท/ครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ และปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้รับการรักษา ที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด
- จำนวนครั้งในการเลเซอร์
การ เลเซอร์ขน Diode และ YAG จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณครั้งที่ 5-8 ของการเลเซอร์ แต่สำหรับบางคนอาจเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิวหนัง, สีขน, บริเวณที่เลเซอร์ และปริมาณเส้นขนของแต่ละบุคคล
สรุป เลเซอร์ขน Diode กับ YAG แบบไหนดีกว่ากัน
ถ้าถามว่าระหว่างเลเซอร์ขน Diode กับ YAG แบบไหนดีกว่ากัน ? โดยรวมแล้วการเลเซอร์ทั้ง 2 แบบ เป็นวิธีการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพทั้งคู่ เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยยับยั้ง การเติบโตของเส้นขนใหม่ได้อย่างถาวร และสามารถทำให้เส้นขนจางลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ Diode Laser จะเจ็บน้อยกว่า YAG Laser และไม่เบิร์นผิว เพราะมีระบบทำความเย็นถึง -16 องศา ช่วยปกป้องผิวจากการยิงเลเซอร์ ไม่ทำให้เลเซอร์ทำร้ายผิวโดยรอบ และลดการเกิดใหม่ของเส้นขนได้อย่างถาวร
แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการกำจัดขนบริเวณไหน และมีโทนสีผิวอย่างไร เพราะปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เลเซอร์ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ถ้าสนใจอยากทำ เลเซอร์ขน ด้วยเทคโนโลยี Diode Laser แนะนำว่ามาทำที่ Da La Rose Clinic รับรองว่าตอบโจทย์! เพราะที่นี่เราให้บริการกำจัดขน ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษา โดยแพทย์มากประสบการณ์ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เผยผิวที่เรียบเนียนไร้ขน กับ เลเซอร์ขน ที่ Da La Rose
การเลเซอร์กำจัดขน นอกจากจะช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืนมาแล้ว ยังช่วยให้ผิวบริเวณนั้นรักษาความสะอาดง่าย ไม่เกิดปัญหาขนคุด ทำให้ดูเรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น ดังนั้นหากใครที่สนใจอยาก เลเซอร์ขน Diode ที่ Da La Rose Clinic เรายินดีให้บริการ เพราะเราเป็นคลินิกเสริมความงาม ที่มุ่งเน้นในเรื่องความมั่นใจ และใส่ใจถึงความปลอดภัยของลูกค้าทุกท่านเป็นหลัก ควบคุมดูแลและให้คำปรึกษาโดยแพทย์ American Board ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
พร้อมทั้งทีมงานที่มีประสบการณ์ ช่วยให้คำแนะนำทุกการให้บริการ ซึ่งนอกจากบริการเลเซอร์กำจัดขน ทางคลินิกของเรายังให้บริการในด้านอื่นๆ อีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น บริการฉีดโบท็อก, บริการยกกระชับ, บริการดูแลผิวหน้า และบริการอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยเสริมความงามให้กับลูกค้าทุกท่าน
ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
